วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

ไฟร์บวร์กเจ๋ง!บุกดับแฟร้งเฟิร์ตคารัง1-0


ไฟร์บวร์ก โชว์ฟอร์มเจ๋ง เมื่อบุกไปสยบ แฟร้งเฟิร์ต ถึงถิ่น 1-0 ศึกฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน
วันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2553
แฟร้งเฟิร์ต 1 - 0 ไฟร์บวร์ก


สนาม : คอมแมร์ซบังก์-อารีน่า


มิชาเอล สคิบเบ้ เทรนเนอร์ของ แฟร้งเฟิร์ต ยึดผู้เล่น 11 คนแรกเป็นชุดเดิมจาเกมนัดล่าสุดที่บุกไปถล่ม มึนเช่นกลัดบัค 4-0 ทั้งหมด โดยใช้คู่หน้าอย่าง ฮาลิล อัลตินท็อป กับ ธีโอฟานิส เกคัส เป็นความหวังในการจบสกอร์


ด้านทีมเยือน ไฟร์บวร์ก ของเทรนเนอร์ โรบิน ดุทท์ มีการปรับทัพจากเกมล่าสุดเล็กน้อย ทว่สยังมี ปาปิส เดมบา ซิสเซ่ กองหน้าดาวซัลโวของทีมเป็นตัวชูโรงเช่นเดิม


เปิดฉากเขี่ยลูกเริ่มเกมมาได้ 6 นาที ทีมเยือนเกือบมาได้สกอร์ออกนำอย่างรวดเร็ว จากความไม่เข้าใจกันของแผงหลังเจ้าบ้าน ทำให้ ซิสเซ่ วื่งสอดฉกบอลเข้าไปยิงด้วยขวา ทว่า โอค่า นิโคลอฟ นายด่านเจ้าบ้านพุ่งปัดออกไปได้


อีกสองนาทีต่อมายังเป็น ไฟร์บวร์ก ที่ได้ลุ้นอีก คราวนี้ ซิสเซ่ โยนครอสบอลมาเสาสองให้ เซดริค มาเคียดี้ วอลเลย์บอลกระเด้งพื้น เดือดร้อนให้ นิโคลอฟ ต้องออกแรงตะครุบบอลสองจังหวะถึงจะเอาอยู่


นาที 18 เจ้าบ้านมามีโอกาสลุ้นขึ้นนำจังๆครั้งแรกจากลูกฟรีคิก จอร์จอส ซาเวลลาส โยนครอสเข้ากรอบเขตโทษให้ เกคัส ขึ้นโขกบอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว


เจ้าบ้านเริ่มตั้งเกมติดครองบอลเปิดเกมบุกเข้าใส่ทีมเยือนได้มาก ขึ้น ถัดมาอีก 6 นาที มาได้เสียวอีกครั้ง จากจังหวะที่ เพอร์มิน ชเวกเลอร์ เก็บตกลูกที่กองหลัง ไฟร์บวร์ก โขกออกมาเข้าทาง ก่อนที่เจ้าตัวจะตั้งป้อมซัดบอลระยะ 19 หลาเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย


เกมผ่านมาครึ่งชั่วโมงพอดี แฟร้งเฟิร์ต มาพลาดการได้ประตูขึ้นนำออกไปอีก จากลูกฟรีคิกที่ ซาเวลลาส คนเดิม บรรจงครอสมาให้ เบนจามิน โคห์เลอร์ ขึ้นโหม่งโล่งๆคนเดียว ทว่า โอลิเวอร์ เบามันน์ ผวาล้มตัวไปตะครุบรับบอลไว้ทัน


จังหวะต่อมาเป็น ไฟร์บวร์ก น่าจะได้ลูกขึ้นนำเช่นกัน มาเคียดี้ แทงบอลทะลุช่องหลุดมาให้ ไฮโค บุทเชอร์ แบ็กซ้ายเติมขึ้นมาอัดบอลเรียดเต็มข้อ บอลพุ่งเฉี่ยวออกเสาสองไปอย่างหวุดหวิด


นาที 40 พาทริค โอ๊คส์ กัปตันทีมเจ้าบ้านเกือบมายิงให้ทีมออกนำ เมื่อตัดสินใจตั้งป้อมซัดไกลเต็มข้อ บอลพุ่งส่ายเป็นจรวด ทว่า เบามันน์ ยังสุดยอดกระโดดปัดบอลออกหลังไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0 ทว่ารูปเกมเร้าใจอยู่ตลอด


ครึ่งหลังเทรนเนอร์ของทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น และผ่านมา 5 นาทีของครึ่งหลัง ซาเวลลาซ เติมขึ้นมาเปิดบอลเรียดเข้ากลางมาถึง เกคัส ทว่าเจ้าตัวดันรีบร้อนตวัดยิงตามน้ำทันที ทำให้บอลหลุดออกเสาแรกไปไกล


เกมผ่านมาหนึ่งชั่วโมงพอดี เจ้าบ้านเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง คาโย่ ลงมาเล่นแทน อเล็กซานเดอร์ ไมเออร์ ที่หายไปจากเกม และ คาโย่ ก็เกือบมายิงให้ทีมขึ้นนำทันควัน เมื่ออาสาซัดฟรีคิกระยะ 20 หลา บอลพุ่งติดไซด์เข้ากรอบ เดือดร้อนให้ เบามันน์ ต้องตัดสินใจปัดบอลออกหลังไป


เกคัส ที้เกมนี้มีโอกาสเยอะเหลือเกินมาทิ้งโอกาสทองไปอีกครั้ง จากจังหวะที่ โคห์เลอร์ โยนข้ามฟากมาให้เจ้าตัวโหม่งบอลหนีแผงหลังทีมเยือนไปข้างหน้า ก่อนวิ่งตามไปแปบอลโด่งข้ามคานออกไป


นาที 69 ซิสเซ่ โชว์ความขยันลากไปเอาบอลที่ริมเส้น ก่อนตัดสินใจหักบอลกลับเข้ากลางมาหน้าเขตโทษให้ แอนทอน พุทซิโล่ วิ่งเข้ามากดเน้นๆไปติดเซฟของ นิโคลอฟ ที่พุ่งปัดออกหลั
งไปได้อย่างสุด ยอด


สามนาทีต่อมาเป็นทาง พุทซิโล่ ที่จ่ายมาให้ เฟลิกซ์ บาสเตียน เติมขึ้นมาอัดด้วยซ้าย ทว่าบอลก็หลุดออกหลังไปอีก


เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยการเสมอ แต่แล้วทีมเยือนก็มาได้ประตูชัยจนได้ ในนาทีสุดท้าย จากจังหวะที่ ยาซิน อับเดสซาดกี้ หลุดขึ้นไปทางกราบซ้าย ก่อนเปิดเข้ามาให้ ยาน โรเซนทาล แปโล่งเข้าไปเป็นประตูชัยให้ ไฟร์บวร์ก บุกมาเอาชนะ แฟร้งเฟิร์ต 1-0


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แฟร้งเฟิร์ต :
โอค่า นิโคลอฟ - เซบาสเตียน ยุงก์, ไมค์ ฟรานซ์, มาร์โค รุสส์, จอร์จอส ซาเวลลาซ - พาทริค โอ๊คส์, อเล็กซานเดอร์ ไมเออร์, เพอร์มิน ชเวกเลอร์, เบนจามิน โคห์เลอร์ - ฮาลิล ตินท็อป, ธีโอฟานิส เกคัส

สำรอง :
ราล์ฟ เฟห์รมันน์, คริส, ริคาร์โด้ คล้าร์ก, คาโย่, ซอนนี่ คิทเทิ่ล, มาร์กอส อัลวาเรซ, อูมิต คอร์กมาซ


ไฟร์บวร์ก :
โอลิเวอร์ เบามันน์ - เมนซูร์ มุดซ่า, โอลิเวอร์ บาร์ธ, ไฮโค บุทเชอร์, เฟลิกซ์ บาสเตียน - ยูเลียน ชูสเตอร์, แอนทอน พุทซิโล่ - ยาซิน อับเดสซาดกี้, เซดริค มาเคียดี้, ยาน โรเซนทาล - ปาปิส เดมบา ซิสเซ่

สำรอง :
มานูเอล ซัลซ์, อิวิก้า บาโนวิช, ดาเนียล วิลเลียมส์, โอเมอร์ ท็อปรัค, มักซิมิเลียน นิคู, ดาเนียล คาลิกูรี่, กิโช ยาโนะ


ผู้ตัดสิน :
กุนเทอร์ เพิร์ล

ฮ็อดจ์สันหวังแข้งหลักหงส์ฟิตฉะผี


รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือคนเก่งของ ลิเวอร์พูล หวังตนเองจะคิดถูก ที่ไม่ใช้งานนักเตะตัวหลักหลายรายลงเล่นในเกม ยูโรป้า ลีก นัดถล่ม สเตอัว บูคาเรสต์ ไปแบบขาดลอย 4-1 บอกน่าจะทำให้นักเตะเหล่านั้นได้พักและพร้อมสมบูรณ์เต็มที่สำหรับการลงเล่น ในเกมลีกนัดสำคัญ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายนนี้



กุนซือมือเก๋าวัย 63 ปี หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นักเตะอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เกล็น จอห์นสัน จะพร้อมเต็มที่สำหรับเกมลีกช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยกล่าวว่า "ผมเคยทำมาครั้งหนึ่งที่ ฟูแล่ม เมื่อฤดูกาลก่อน เมื่อผมตัดสินใจพักนักเตะทั้งทีม เมื่อตอนที่พวกเราลงเตะกับ ซีเอสเคเอ โซเฟีย โดยใช้ทีมสำรอง"

"จากนั้นพวกเราก็กลับมาพ่าย วูล์ฟส์ และผมก็ไม่คิดว่า พวกเราดูสดมากๆ หรือเล่นได้เฉียบคมเลย แต่คุณก็รู้ว่า คุณไม่อาจที่จะใช้งานนักเตะให้ลงเล่น 3 แมตช์ต่อสัปดาห์ได้ หรือลงเล่นทุกนัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อแมตช์เหล่านั้นต้องเล่นหลังจากเดินทางไปลงเตะให้กับทีมชาติ"

"อย่าลืมนะว่า ตอร์เรส เพิ่งจะกลับมาจากอาร์เจนตินา เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อที่จะลงเล่นในวันอาทิตย์เมื่อสัปดาห์ก่อน คุณจำเป็นต้องตัดสินใจ เมื่อคุณพูดว่า "ผมคิดว่า มันน่าจะเป็นนักเตะรายนี้ที่ต้องพัก และนักเตะรายนี้จะต้องสดชื่นกว่านี้ และเป็นอะไหล่ที่ดีกว่าสำหรับการเล่นในวันอาทิตย์ หากเขาไม่ได้ลงเล่นในเกมวันพฤหัสบดี ตอนนี้ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ใครจะไปรู้ พวกเราไม่ได้มีพลังจิต และคุณก็จำเป็นต้องตัดสินใจกับสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นเช่นนั้นเสมอไป"

พร้อมกันนั้น ฮ็อดจ์สัน ยังได้กล่าวถึงความเชื่อมั่นในการพาทีมบุกไปเยือนถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ "ผีแดง" ด้วยว่า "มันเป็นแมตช์ที่ยากอยู่เสมอ แต่มันก็เป็นเกมที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมมานานหลายปี ก็ได้แต่หวังว่า มันจะไม่มีอะไรที่แตกต่างออกไปในสุดสัปดาห์นี้ มันไม่มีผลเลยสำหรับผม หรือ (เซอร์) อเล็กซ์ (เฟอร์กูสัน) ที่จะพยายามสร้างกระแสให้เกมนี้ เนื่องจากมันได้ถูกสร้างกระแสไปแล้ว ทุกอย่างที่เราทำได้ก็คือเดินหน้าต่อไป พร้อมกับหวังว่า ทีมของเราจะมีการเตรียมตัวที่ดีในการลงสนาม และนักเตะของเราจะโชว์ผลงานได้ดีด้วย"

"ผลการแข่งขันนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ นี่กำลังจะเป็นลีกที่ไม่มีความแตกต่าง ทีมระดับกลางๆ ตารางในเวลานี้มีความแตกต่างกันเพียงแค่ 1 หรือ 2 คะแนนเท่านั้น แต่มันก็ยังเป็นระยะทางอีกยาวไกลสำหรับทุกคนในฤดูกาลนี้ ก่อนที่คุณจะกลับมาอยู่ในตำแหน่งที่คุณหวังที่จะทำให้ได้ในช่วงจบฤดูกาล หลายๆ เกมสำคัญผ่านเข้ามาเร็วมากๆ สำหรับเรา ซึ่งไม่ใช่อะไรที่น่าปลื้มเลย แต่ผมก็หวังว่า เราจะแสดงผลงานสุดยอดออกมาได้ คอยดูกันต่อไปก็แล้วกันว่า เกมนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง" อดีตนายใหญ่ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม กล่าวทิ้งท้าย

ปืนฟอร์มร้อน!เชสจอมทัพชามัค-ชาร์วินโป้ง


"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงเตรียมยกพลบุกรัง ซันเดอร์แลนด์ โดยยังใช้ผู้เล่นหน้าเดิมจากนัดก่อน เกมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วัน เสาร์ที่ 18 กันยายน 2553
ซัน เดอร์แลนด์ (10) - อาร์เซน่อล (2)


สนาม : สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์


สตีฟ บรูซ กุนซือ แมวดำ ต้องปวดหัวกับพฤติกรรมของ ลี แคตเทอร์โมล กองกลางฮาร์ดคอร์ ที่โดนไล่ออกเป็นครั้งที่ 2 ของฤดูกาล ในเกมล่าสุดที่บุกเสมอ วีแกน 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ซึ่งโทษสองใบเหลืองบวกกับถูกไล่ออกเป็นครั้งสอง จะทำให้ติดโทษแบน 2 นัด

แนวรับ จอห์น เมนซาห์ ซึ่งเพิ่งฟิตกลับมาเป็นตัวสำรองเกมที่แล้ว ล่าสุดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าอีกตอนซ้อม ต้องรอทดสอบความฟิต ขณะที่ ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลัก ยังคงเจ็บข้อเท้า พักต่ออีกหลายสัปดาห์

ข่าวดี คีแรน ริชาร์ดสัน กับ อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้ ที่บาดเจ็บเล็กน้อยทั้งคู่จากเกมที่ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม คาดว่าจะฟิตลงสนามไม่มีปัญหา แต่พวกที่ยังพักยาวมี เคร็ก กอร์ดอน ประตูมือ 1 (แขนหัก), เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ (เข่า) และ เดวิด เมย์เลอร์ (เข่า)

ระบบการเล่น 4-4-2 สตีฟ มินโยเลต์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังประกอบไปด้วย เนดุม โอนูโอฮา, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, คีแรน ริชาร์ดสัน แดนกลางมี อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้, คริสเตียน ริเวรอส, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีด มัลบร็องก์

แนวรุกเป็นโอกาสของ กียาน อซาโมอาห์ ดาวยิงคนใหม่ทีมชาติกาน่า ที่ประเดิมตัวสำรองนัดที่แล้ว และประเดิมประตูแรกได้ น่าจะออกสตาร์ตคู่กับ ดาร์เรน เบนท์ ปล่อยให้ แดนนี่ เวลเบ็ค กลับไปนั่งตัวสำรอง

ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ ปืนใหญ่ แม้จะเจอปัญหาบาดเจ็บเดิมๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์โชว์ฟอร์มพระเอก ไล่ถล่ม บราก้า ทีมโปรตุเกส ในนัดแรก แชมเปี้ยนส์ ลีก 6-0 เชส ฟาเบรกาส กับ คาร์ลอส เวล่า ยิงคนละสอง ที่เหลือได้จาก อังเดร อาร์ชาวิน กับ มารูอาน ชามัค

เวนเกอร์ ยังหมดสิทธิ์ใช้งานหน้าเดิมๆ โธมัส แฟร์มาเล่น (เอ็นร้อยหวาย), อาบู ดิยาบี้ (ข้อเท้า), ธีโอ วัลค็อตต์ (ข้อเท้า), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (ข้อเท้า), นิคลาส เบนท์เนอร์ (โคนขาหนีบ) และ อารอน แรมซี่ย์ (ขาหัก)

มีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่ กุนซือชาวฝรั่งเศส อาจสลับทีมบ้าง โทมัส โรซิชกี้, คีแรน กิ๊บบ์ส, คาร์ลอส เวล่า, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ และ เดนิลสัน มีโอกาสเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงเหมือนกัน แต่ที่ปรับไม่ได้แน่ๆ คือคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ เซบาสเตียง สกิลลาชี่ ต้องจับคู่ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ต่อไป

ระบบการเล่น 4-4-2 มานูเอล อัลมูเนีย ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี โทมัส โรซิชกี้, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, เชส ฟาเบรกาส คู่หน้า อังเดร อาร์ชาวิน ยืนคู่ มารูอาน ชามัค

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ซันเดอร์แลนด์ :
สตีฟ มินโยเลต์ - เนดุม โอนูโอฮา, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, คีแรน ริชาร์ดสัน - อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้, คริสเตียน ริเวรอส, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีด มัลบร็องก์ - กียาน อซาโมอาห์, ดาร์เรน เบนท์

อาร์เซน่อล :
มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ - โทมัส โรซิชกี้, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, เชส ฟาเบรกาส - อังเดร อาร์ชาวิน, มารูอาน ชามัค

ผู้ตัดสิน :
ฟิล ดาวด์


ปืนดุ! 13 นัดในลีกแพ้แมวนัดเดียว


อาร์เซน่อล มีผลงานที่ข่ม ซันเดอร์แลนด์ สุดๆ เมื่อ 13 นัดหลังสุดที่ทั้งสองทีมเจอกันเฉพาะในพรีเมียร์ลีก ปืนใหญ่ พ่าย แมวดำ เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นเกมที่เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลที่แล้วด้วย

นับตั้งแต่ชัยชนะ 1-0 ของ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อฤดูกาล 2000-01 หลังจากนั้น อาร์เซน่อล ไม่เคยพ่าย แมวดำ ในพรีเมียร์ลีกอีกเลย จนกระทั่งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เดอะ แบล็คแคตส์ เฉือนชนะ 1-0 ที่สนาม สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ เหมือนเดิม จากประตูชัยของ ดาร์เรน เบนท์ ในช่วงครึ่งหลัง เป็นชัยชนะนัดเดียวในรอบ 13 นัดที่พบกันในลีก

ส่วนอีก 12 นัดที่เหลือ ปรากฏว่า ปืนใหญ่ เอาชนะไปได้ถึง 8 นัด อีก 4 นัดเสมอกันไป ซึ่ง 2 นัดในจำนวนนั้นเป็นการเสมอทั้งเหย้าและเยือนในฤดูกาล 2008-09


พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
18.45 น. สโต๊ค ซิตี้ - เวสต์แฮม
21.00 น. แอสตัน วิลล่า - โบลตัน
21.00 น. แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส - ฟูแล่ม
21.00 น. เอฟเวอร์ตัน - นิวคาสเซิ่ล
21.00 น. สเปอร์ส - วูล์ฟแฮมป์ตัน
21.00 น. เวสต์บรอมวิช - เบอร์มิงแฮม
23.30 น. ซันเดอร์แลนด์ - อาร์เซน่อล

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

เอเอฟห่วงแผนรับมือแฟนเติร์กเกมคัดยูโร2012


สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน กังวลมาตรรักษาความปลอกภัยของแมตช์รอบคัดเลือก ยูโร 2012 ที่ทัพ "อินทรีเหล็ก" จะต้อนรับการมาเยือนของ ตุรกี ในวันที่ 8 ต.ค.นี้ หลังจากแฟนบอลชาวเติร์กเคยมาก่อเหตุวุ่นวายในเกมกระชับมิตรระหว่าง กาลาตาซาราย กับ เฟเนร์บาห์เช่ ที่จัดแข่งในเมืองเบียร์เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าจะมีแฟนบอลเติร์กเข้าชมการแข่งขันในเกมนี้ประมาณ 30,000 คน โดยส่วนหนึ่งเป็นชาวตุรกีที่ศัยอยู่ในเมืองเบียร์อยู่แล้วกว่า 2.5 ล้านคน รวมกับกลุ่มแฟนบอลที่จะเดินทางมาสมทบจากบ้านเกิด แม้สหพันธ์ลูกหนังแดนไก่งวงจะได้รับโควตาตั๋วเพียงแค่ 11,500 ใบก็ตาม


โว ล์ฟกัง เนียร์สบัค เลขาธิการทั่วไป เดเอฟเอ เผยกับ "บิลด์" นิตยสารกีฬารายสัปดาห์ของเยอรมัน ว่า "แมตช์นี้จัดยากยิ่งกว่านัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเสียอีก เราหวังว่าแฟนบอลทั้ง 2 ฝ่ายจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน แค่เราก็รู้เช่นกันว่าอารมณ์ของแฟนบอลชาวตุรกีอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายได้ ทุกเมื่อเหมือนอย่างเช่นในเกมกระชับมิตรระหว่าง กาลาตาซาราย กับ เฟเนร์บาห์เช่ ในเมืองมึนเช่นกลัดบัค เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา"

สำหรับ เยอรมัน รั้งอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่ม เอ ของรอบคัดเลือกศึก ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2012 โดยเก็บได้ 6 คะแนน จากการลงสนาม 2 นัด เท่ากับ ตุรกี แต่มีประตูได้เสียที่ดีกว่า

ลือ!ฝอยทองอยากได้มูคุมทัพคัดยูโร2012


สมาคมลูกหนังโปรตุเกส ตกเป็นข่าวอยากได้ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเรอัล มาดริด มาคุมทีมสู้ศึกยูโร 2012 รอบคัดเลือกกับ เดนมาร์ก และ ไอซ์แลนด์ เดือนตุลาคมนี้ เผย กิลแบร์โต้ มาดาอิล ปธ.ฟุตบอล "ฝอยทอง" เดินทางไปแดนกระทิงดุเพื่อเจรจากับเจ้าตัวและ "ราชันชุดขาว" แล้ว



"ฝอยทอง" เพิ่งประกาศปลด คาร์ลอส เคยรอช เทรนเนอร์คนเก่าออกจากตำแหน่งไปเมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา หลังเจ้าตัวโดนแบนยาว 6 เดือน โทษฐานที่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวใส่เจ้าหน้าที่ตรวจโด๊ปของประเทศ ในช่วงก่อนลุยศึกฟุตบอลโลก 2010 ครั้งที่ผ่านมา และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ตัวกุนซือคนใหม่มาทำหน้าที่แทนแต่อย่างใด

ทั้ง นี้ ในศึกยูโร 2012 รับคัดเลือก กลุ่ม เอช 2 นัดที่ผ่านมา โปรตุเกส ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอกับ ไซปรัส 4-4 ในวันศุกร์ที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา และบุกไปพ่าย นอร์เวย์ 0-1 ในวันอังคารที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา

นิโก้รับท่าดีใจในชปล.ประชดตราไก่


นิโกล่าส์ อเนลก้า หัวหอก เชลซี เผยทำท่าดีใจด้วยการไขว้ข้อมือ หลังยิงในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บุกชนะ เอ็มเอสเค ซิลิน่า 4-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อประชดสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศสที่สั่งแบนตนจากการรับใช้ชาติ 18 เกมจากข้อหาเป็นตัวการสร้างความวุ่นวายภายในแคมป์ "เลส์ เบลอส์" ระหว่างร่วมศึกฟุตบอลโลก 2010 เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกเป็นอดีตไปแล้ว และขอทุ่มเทสมาธิให้กับ "สิงห์บลูส์" เพียงอย่างเดียวเท่านั้น



ดาว ยิงวัย 31 ปี กล่าวว่า "ผมแค่ต้องการส่งสัญญาณบางอย่างไปให้กับสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศสเกี่ยวกับสิ่ง ที่เกิดขึ้นที่ฟุตบอลโลก สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์มันเป็นอดีตไปแล้ว และตอนนี้ผมทุ่มเทสมาธิ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเล่นให้กับ เชลซี"

วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

เบนฟิก้าขู่ถอนลีกคัพประท้วงเปาเอียง



เบนฟิก้า สุดทน ต้องเสียเปรียบจากการเป่านกหวีดของกรรมการหลายต่อหลายเกมติดต่อกัน ลั่นพร้อมบอยคอต ไม่ลงบรรเลงเพลงแข้ง โปรตุกีส ลีก คัพ ในซีซั่นนี้ หลัง "เหยี่ยวลิสบอน" แพ้ไปแล้ว 3 จาก 4 เกม ในซีซั่นใหม่ พร้อมวางแผนประท้วงต่อ ด้วยการไม่ให้แฟนบอลเดินทางไปเชียร์ทีมรัก ยามลงสนามเป็นทีมเยือน หากยังโดนรังแกต่อไป


เบนฟิก้า ยอดทีมในลีกสูงสุดโปรตุเกส ออกโรงขู่ ไม่ลงสนามแข่งขันรายการ โปรตุกีส ลีก คัพ ภายในประเทศ เพื่อเป็นการประท้วงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ที่ผิดพลาดหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้ทีมแพ้ไปแล้ว 3 เกม จากการลงสนาม 4 แมตช์แรกในฤดูกาลนี้ ส่งผลทำให้ไล่ตามหลัง เอฟซี ปอร์โต้ คู่อริสำคัญ ห่างไกลถึง 9 คะแนนเข้าไปแล้ว

"เหยี่ยวลิสบอน" รู้สึกว่า การทำหน้าที่ของกรรมการหลายต่อหลายครั้ง ส่งผลโดยตรงต่อสถานการณ์ยากลำบากของทีมในเวลานี้ และระหว่างการเรียกประชุมด่วน เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา บอร์ดบริหารได้บอกกล่าวไปยังบรรดาแฟนบอล ไม่ให้เดินทางไปชมเกมนัดเยือน รวมถึงกำลังพิจารณาบอยคอต ไม่ลงแข่งขันในรายการ ลีก คัพ อีกด้วย

ทีมดังจากกรุงลิสบอน ต้องการได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และเชื่อว่า ลีกแดนฝอยทองขาดหลักการพื้นฐาน ซึ่งรับประกันได้ว่า จะเป็นลีกลูกหนังที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นมืออาชีพอย่างเต็มเปี่ยม และแม้ว่าจะมีกรรมการที่มีความสามารถเพียงพอต่อการลงเป่าห้ามทัพพ่อค้าแข้ง กระนั้นโชคไม่ดีที่มีท่านเปาบางราย ที่ทำให้มาตรฐานของผู้ตัดสินลดต่ำลง

รุยซ์ นาซาเรธ ประธานในที่ประชุมใหญ่ของ เบนฟิก้า เปิดเผยว่า "เมื่อมองจากหลักฐานของความผิดพลาดมากมายภายในระยะเวลาอันสั้นนั้น ความหวังอันแรงกล้าในการคว้าแชมป์ลีก ยังไม่ได้หมดไป แต่ทว่ามันยากเย็นแสนเข็ญเสียแล้ว พวกเราไม่อาจยอมรับได้แม้แต่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาในช่วงเริ่มต้นของฤดู กาล และไม่ขอยอมรับอย่างแท้จริง"

ป๋าเครียดวาเลนเซียเจ็บหนักเกมเสมอเรนเจอร์ส


เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปวดขมับ หลัง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปีกทีมชาติเอกวาดอร์ ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า ในเกมเสมอ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส แบบไร้สกอร์ ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม ซี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา งานนี้อาจส่งผลให้นักเตะพักไปอีกนานเลยทีเดียว


เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับ ตอนนี้รู้สึกกังวลใจว่า อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปีกตัวเก่ง อาจจะมีปัญหากระดูกข้อเท้าเคลื่อนหรือแตก ในเกมเสมอ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 0-0 ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี นัดแรก เมื่อวันอังคารที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา

ปีกทีมชาติเอกวาดอร์ ต้องโดนหามออกจากสนาม พร้อมกับต้องสวมหน้ากากออกซิเจน ในนาทีที่ 63 หลังโดน เคิร์ก บอร์ดฟุต เสียบหนักที่ข้อเท้า และ เซอร์เฟอร์กี้ ต้องส่ง ไรอัน กิ๊กส์ มิดฟิลด์วัยดึก ลงมาลากเลื้อยทางริมเส้นแทน

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้บรมกุนซือ "ผีแดง" ยอมรับว่า กังวลใจกับอาการบาดเจ็บของดาวเตะวัย 25 ปีอย่างมาก และตอนนี้ก็ต้องรีบส่งตัว วาเลนเซีย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที "เขาถูกนำตัวไปที่โรงพยาบาลแล้ว มันดูเหมือนกับว่า จะเป็นอาการเคลื่อนหรือแตกที่ข้อเท้าก็ได้ ซึ่งเป็นข่าวร้ายจริงๆ งานนี้คงจะทำให้เขาหมดสิทธิ์ลงสนามอีกนานแน่นอน"

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

ทฤษฎีสัมพัทธภาพ ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์


ทฤษฎีสัมพัทธภาพ ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นกลุ่มของทฤษฎีทางฟิสิกส์ 2 ทฤษฎี คือ ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษและทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทฤษฎีทั้งสองนี้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อใช้อธิบายข้อเท็จจริงที่ว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นไม่ได้ประพฤติตนตามกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่โดยไม่ขึ้นกับการเคลื่อนที่ของผู้สังเกต แนวคิดหลักของทั้ง 2 ทฤษฎีนี้ คือ แม้ผู้สังเกตสองคนที่กำลังเคลื่อนที่สัมพัทธ์กันนั้นอาจจะตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงของเวลาและตำแหน่งได้ต่างกันสำหรับเหตุการณ์หนึ่งๆ แต่ทั้งสองจะยังคงสังเกตเห็นเนื้อหาของกฎทางฟิสิกส์ที่เหมือนกัน

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

วิธีการหัดร้องเพลงด้วยตนเอง




วิธีการฝึกร้องเพลงที่ถูกต้อง



จากเคล็ดของ อ.ดุษฎี พนมยงค์ บุญทัศนกุล ผู้มีข้อแนะนำวิธีการฝึกร้องเพลงด้วยตนเองง่ายๆดังนี้



1. ฝึกการหายใจประกอบการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ


ขั้นตอนการปฏิบัติมีดังนี้


- ยืนตรง สองเท้าห่างกันเท่าความกว้างของหัวไหล่

- เหยียดแขนที่ประสานกันขึ้นเหนือศีรษะ หงายมือขึ้น
...พยายามเหยียดแขนขึ้นให้สุด ให้แขนทั้สองข้างตึง

- หายใจเข้าช้าๆอาจนับ 1 2 3 พร้อมกับเขย่งเท้าขึ้นช้าๆด้วย

- กลั้นหายใจไว้ชั่วขณะในสภาพเขย่งเท้า

- ค่อยๆผ่อนลมหายใจออกยาวๆนับ 1 2 3 4 5 6
ช้าๆพร้อมกับวางมือข้างตัวอย่างช้าๆ ขณะที่วางส้นเท้าลงกับพื้น
แบบฝึกหัดนี้ ปฏิบัติทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง





2. ฝึกการเปล่งเสียงประกอบการหายใจ



- หายใจเข้าช้าๆ สบาย นับ 1 2 3 ช้าๆไว้ในใจ

- ค่อยๆผ่อนลมหายใจออกทางจมูก โดยหุบปากเปล่งเสียง "ฮึ่ม!"
(เหมือนเสียงบ่นพึมพัมเวลาคนที่บ้านทำอไรไม่ถูกใจเรา)

- หายใจเข้าช้าๆอีก

- คราวนี้จากเสียง "ฮึ่ม" สั้นๆเปลี่ยนเป็น "ฮึ่ม"
ยาวๆพร้อมผ่อนลมหายใจออก นับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ครบแล้ว จึงหยุดเสียง "ฮึม" ปฏิบัติซ้ำซากอย่างนี้วันละไม่ต่ำกว่า 8 ครั้ง





3. ฝึกการร้องให้ถูกต้องตามทำนองและจังหวะ

- หาเพลงที่ท่านชอบมาฟังหลายๆเที่ยว

- ลองฮัมตามทำนองเพลงให้ถูกทั้งทำนองและจังหวัด

- ร้องด้วยคำว่า "ลา....." ตามความสูงต่ำของเสียงเพลงตลอดทั้งเพลง





4. ฝึกการท่องจำเนื้อเพลงให้แม่นยำ


- นำเพลงบทนั้นมาอ่านเนื้อร้องให้คล่อง


- พยายามออกเสียง พยัญชนะ อักขระ และตัวสะกดต่างๆให้ถุกต้องและถูกวรรคตอน

- เมื่อแน่ใจแล้วก็ลองร้องทั้งเพลง


- ใส่อารมณ์ความรู้สึกตามเนื้อเพลงนั้นๆ

เพลง Better man - Robbie Williams

วิธีทำซูชิ



เครื่องปรุง

ข้าวญี่ปุ่น (ล้างน้ำสะอาดและสะเด็ดน้ำ)

200 กรัม (1 ถ้วย)

น้ำเปล่า

300 มล.

น้ำส้มสายชูข้าวญี่ปุ่น

120 มล.

น้ำตาล

1/2 ช้อนโต๊ะ

เกลือ

1/2 ช้อนชา


วิธีทำ
1. ผสมข้าวกับน้ำเปล่า 300 มล. ลงในหม้อและแช่ค้างไว้ประมาณ 30 นาที
2. ปิดฝาหม้อ นำข้าวและน้ำเปล่าไปต้มใช้ไฟปานกลาง จากนั้น ลดความร้อนลงจนเหลือไฟอ่อนมาก ต้มต่อไป 15 นาที ปิดความร้อนและปล่อยพักไว้ก่อน ปิดฝาให้แน่นอีกประมาณ 15 นาที ในขณะเดียวกัน คนน้ำส้มสายชู น้ำตาลและเกลือเข้าด้วยกันใช้ไฟอ่อน (หรือ ใช้ไมโครเวฟก็ได้) รอจนกระทั่งน้ำตาลละลาย

3. นำข้าวที่สุกแล้ววางบนถาด โรยด้วยน้ำส้มสายชู ค่อยๆราดให้ทั่ว คนเบาๆด้วยไม้พายข้าว ระวังอย่าให้ข้าวเหลวจนเกินไป ค่อยๆคนพลิกไปมาเบาๆให้ส่วนผสมเข้ากันดี ทำขั้นตอนนี้หน้าพัดลม หรือให้คนช่วยพัดขณะคน เพื่อให้ข้าวเย็นเร็วขึ้น (หากข้าวเย็นช้าอาจกลายเป็นข้าวต้มได้) คุณอาจไม่ต้องใช้น้ำส้มสายชูจนหมด ชิมข้าวก่อนปรุงเพิ่มก็ได้ เมื่อข้าวเย็นดีแล้วให้หยุดคน

คำแนะนำ
ซูเปอร์มาร์เกตบางแห่งมีจำหน่ายน้ำส้มสายชูทานพร้อมซูชิตามเทศกาล แต่เตือนไว้ก่อนว่า มันมักจะมีผงชูรส (MSG) และสารแต่งกลิ่น เพิ่มอื่นๆ

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพคืออะไร




คือ การออกกำลังกายเพื่อเพิ่ม หรือคงไว้ซึ่งความทนทานของระบบไหลเวียน
โลหิตและปอด โดยมีขบวนการใช้ออกซิเจน ในขบวนการเผาผลาญ เพื่อให้
เกิดพลังงานสำหรับการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง จึงมีชื่อเรียกการออก
กำลังกายชนิดนี้ว่า AEROBIC EXERCISE

ประโยชน์ต่อสุขภาพ
1. ระบบไหลเวียนโลหิต
1
.1 ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงมากขึ้น สามารถสูบฉีดโลหิตได้ปริมาณ
มากขึ้น
1.2 เพิ่มหลอดโลหิตฝอยมาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้น
1.3 ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ทั้งในขณะพัก และออกกำลังกาย ทำให้ไม่
เหนื่อยง่าย
1.4 ลดแรงต้านทานส่วนปลายของหลอดโลหิตฝอยทำให้ความดันโลหิตลดลง
ทั้งขณะพัก และออกกำลังกายลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิต
สูง

2. ระบบหายใจ
2.1 ความจุปอดเพิ่มขึ้น ทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนมากขึ้น
2.2 เพิ่มปริมาณโลหิตไปสู่ปอด ทำให้การไหลเวียนของปอดดีขึ้น
2.3 เพิ่มประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนก๊าซที่ปอด ทำให้ประสิทธิภาพการ
หายใจดีขึ้น


3. ระบบชีวเคมีในเลือด
3.1 ลดปริมาณคอเลสเตอรอล (Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์
(Triglyceride) จึงลดอัตราเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และ
โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน
3.2 เพิ่ม HDL Cholesterol ซึ่งช่วยลดการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
3.3 ลดน้ำตาลส่วนเกินในเลือด เป็นการช่วยป้องกันโรคเบาหวาน

4. ระบบประสาทและจิตใจ
4.1 ลดความวิตกกังวลและคลายความเครียด
4.2 มีความสุขและรู้สึกสบายใจจากสาร Endorphin ที่หลั่งออกมาจาก
สมองขณะออกกำลังกาย

ขั้นตอนและหลักในการ ปฏิบัติ
ถ้ามีอายุมากกว่า 35 ปี ควรตรวจสุขภาพ ว่ามีโรคหัวใจหรือไม่ก่อน
การออกกำลังกายชนิดนี้ ควรรู้วิธีเหยียดและยืดกล้ามเนื้อ รวมทั้งอุ่นเครื่อง
(Warm up) และเบาเครื่อง (Cool down) หลักในการปฏิบัติ เป็นการใช้
กล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างน้อย 1 ใน 6 ส่วนของร่างกาย ออกกำลังอย่างสม่ำ
เสมอ

คำ ศัพท์
Frequency (F) หมายถึงความถี่ในการออกกำลังกายใน 1 สัปดาห์ อย่าง
น้อย 3 วัน อย่างมาก 6 วัน
Intensity (I) หมายถึงความหนักในการออกกำลังกาย ใช้อัตราการเต้น
ของชีพจรเป็นเกณฑ์ ให้ได้ประมาณระหว่างร้อยละ 70-90 ของอัตราเต้น
สูงสุดของหัวใจ ซึ่งสามารถคำนวนได้จากการนำอายุไปลบออกจากเลข 220
ตัวอย่างเช่น ชายอายุ 20 ปี จะใช้ความหนักในการออกกำลังกายชนิดนี้เท่า
ใด
คำตอบคือ (220-20)x 70 ถึง 90 หาร 100 เท่ากับ 140 ถึง 180 ครั้งต่อนาที
Time (T) หมายถึง ช่วงเวลาในการออกกำลังกายในแต่ละวัน อย่างน้อย
10-15 นาที ใน 6 วัน อย่างมาก 30-45 นาทีใน 3 วัน

รูป แบบการออกกำลังกาย
มีหลากหลายชนิดเช่น วิ่งเหยาะ, เดินเร็ว, ขี่จักรยาน, ว่ายน้ำ, เต้นแอโรบิค,
ฟุตบอล, บาสเก็ตบอล, เทนนิส, แบดมินตัน, ตระกร้อข้ามตาข่าย, วอลเลย์
บอล เป็นต้น

ข้อ ควรระวัง
ควรงดการออกกำลังกาย ในขณะเจ็บป่วย มีไข้ พักผ่อนไม่พอควรออกกำลัง
กายก่อนอาหารหรือหลังอาหารหนักผ่านไป 3-4 ชั่วโมง และดื่มน้ำอย่างเพียง
พอ ควรหลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่ร้อนจัด หนาวจัด ฝนฟ้าคะนอง มลภาวะมาก
สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมควรพักหากมีอาการแน่นหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียน
และไปพบแพทย์

กินอาหารบำรุงผิว เพื่อสุขภาพที่ดีของผิว




อาหารผิวนับว่ามีส่วนสำคัญ ในการเป็นตัวบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและสดใสเพื่อให้มีสุขภาพผิวที่ดีๆ โดยสำหรับอาหารที่ทำลายความสดใสของผิวพรรณอย่างแรกก็คือ ไขมันอิ่มตัวในอาหารจำพวกเบคอน ไส้กรอก ไอศกรีม เนยสด โดยในการเผาผลาญอาหารเหล่านี้ จะทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เซลล์ของร่างกายเหี่ยวย่น และเสื่อมโทรมลง

และหากเป็นอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมากเกิน ไป ก็ไม่ดีเช่นกัน เพราะจะไปขัดขวางกระบวนการสร้างคอลลาเจนซึ่ง เป็นสารที่ทำให้ผิวตึงกระชับ ดังนั้นหากกินมากไปส่งผลให้ผิวหนังหย่อนยานก่อนวัยได้นะ

กาแฟที่เรามักจะดื่มกันตอนเช้าๆ วันละแก้วสองแก้วนี่ก็ทำลา ยผิวเราได้เหมือนกัน เพราะคาเฟอีนจะเป็นตัวดึงความชุ่มชื้นจากผิวเราออกไป และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลายก็เช่นกัน ดังนั้นหากดื่มสองสิ่งนี้เข้าไปเมื่อไร ก็อย่าลืมดื่มน้ำแก้วโตๆ ตามเข้าไป เพื่อป้องกันผิวไม่ให้ขาดความชุ่มชื้น

ส่วนใครที่อยากผิวดีจากอาหารการกินก็ไม่ยาก เพียงแต่กินอาหารจำพวก เนื้อปลา ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย น้ำมันมะกอกซึ่งมีกรดไขมันชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเต็มไปด้วยวิตามินเอและอีก็ช่วยให้ผิวสวยได้ ส่วนธัญพืชต่างๆ ก็ให้วิตามินอีซึ่งช่วยรักษาความแข็งแรงของเซลล์ ที่ขาดไม่ได้คือผักสดผลไม้สด รวมทั้งน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้วด้วย เท่านี้ผิวก็สวยได้แล้ว